ส มัยที่ไม้ด่างเฟื่องฟูในปี 2020-2022 อะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด
.. กระแสโคโลคาเซียมาแรงมาก ไม้นำเข้าจากนอกราคาดีทุกตัว ยิ่งไม้ไฮบริด (ที่ผสมพันธุ์ขึ้นมาใหม่) ยิ่งได้ลายสวย ยิ่งมีราคา
สมัยนั้น Queen of Phenix Colocasia ราคาดีดขึ้นไป กอละ 4.5 ล้านบาท
.. หน่อบอนเล็กๆ ก็ขายได้หลายพันบาท ความต้องการสูงมากกกกก
.. เลี้ยงบอนมาระยะไม่กี่เดือน พอโตเต็มที่เริ่มออกดอก เริ่มติดฝัก และยังอยู่ในช่วงความต้องการของตลาดมีสูงมาก
.. ธุรกิจค้าเมล็ดโคโลคาเซียจึงเกิดขึ้น
ทุกคนนนนน .. ขายหมดในเวลาไม่กี่ชั่วโมงค่ะ
.. 1 ฝักโคโลคาเซีย มีเมล็ดประมาณ 2000-4000 เมล็ด กอนึงมี 2-3 ฝักก็หยิบเงินเกินครึ่งแสนแล้วจ้า
.. คิดถึงช่วงเวลานั้นเนอะ 5555+
โอกาสมักจะมาไวไปไวเสมอ .. ถ้าเราอยู่ในช่วงตรงกระแสก็มีโอกาสที่จะได้เงินจำนวนมาก แต่ที่สำคัญก็ต้องรู้ว่ากระแสจะหมดตอนไหน
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญ คือ การมีสติอยู่ตลอดเวลา .. รู้จังหวะบุก.. รู้จังหวะถอย .. และนี่คือโลกธรกิจ
จุดเริ่มต้นของ ฟาร์มเกษตรป้ายู@ต้นยางใหญ่
.. ในยุคที่โควิดเริ่มเกิดขึ้นมา การงานทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด
.. และด้วยเราทำงานในสายการท่องเที่ยว เมื่อทั้งโลกล๊อคดาวน์ การอยู่ที่บ้านนอกก็ไม่มีรายได้ทางใด
.. อาชีพที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ก็คือ "เกษตรกรรม" มีพ่อแม่ปลูกผลไม้ .. เอาล่ะ อย่างน้อยก็ไม่อดตายนะ 555+
ช่วงนั้นกระแสการปลูกไม้ประดับมาแรงมาก ไม้ด่างเริ่มมีคนสนใจจำนวนมาก เพราะว่า "ว่างจ๊ะ" ทำอะไรล่ะอยู่บ้านเฉยๆ แต่งบ้านอวดลงโซเชียล .. งานต้นไม้ก็ต้องเข้าแล้วไหมล่ะ ใครมีไม้สวย บ้านสวย มุมสวยๆก็อวดกัน ดาราหลายคนก็เริ่มถ่ายรูปกับต้นไม้มาอวด โอ้โห .. ต้นไม้ราคาพุ่งปรี๊ดดดด
.. ต้นแรกที่เราลงทุนซื้อ ฟิโลเดนดรอน เบอร์ลมาร์ค ราคา 800 บาท ส่งมาจากภาคใต้
.. ต้น 2 ใบ 1 ยอด เขียว 1 ใบ ด่าง 1 ใบ -- มาถึงใบเสีย ทิ้งใบ ร้องไห้จ้า 5555+ แพงมากกกก
.. แต่น้องไม่ตุยนะ เอามาดูแลประคบประงม น้องรอด ออกใบด่างมาอีกเพียบ
.. จากต้นละ 800 เอามาตัดใบขายได้ ยอดละ 1000-2500 เด้อจ้าาา
ตาลุกวาวเลย ภาระกิจเริ่มสะสมต้นไม้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
.. เริ่มต้นจากเบอร์ลมาร์ค ราคา 800 บาท
.. อิลุง (คุณแฟน) ใจใหญ่ ต้นต่อไปจัดอิพิใบเลื่อยด่างมาเลยจ้า 4000 บาท
.. หัวใจจะวายไม่เคยซื้อต้นไม้อะไรแพงขนาดนี้ เลี้ยงมา 2 อาทิตย์ ใบใหญ่ขึ้นมาลายสวย โพสต์อวดไปมีคนมาขอซื้อ 8,000 บาท โอ้แม่เจ้าาาา
.. ขายจ๊ะ กำลังใจมาล้นเปี่ยม ตอนนั้นไม้กระแสตัวต่อไป คือ เงินไหลมาด่างจ้าาาา ด่างขาว กับด่างเหลือง ราคาต่างกันครึ่งนึง
.. ไปประมูลเงินไหลมาด่างเหลือง 6,000 บาท 1 ต้น ประมาณ 10 ใบ เอามาล่อราก 10 วัน ตัดข้อชำไว้ อบในถุงอีก 10 วัน
.. ลงประมูลในกลุ่ม แม่เจ้าาาา .. ราคาอยู่ที่ใบละ 2000 - 3500 บาท โอ้วโห้ววววว
ขายต้นไม้แบบนับใบขาย มันสุดยอดไปเลยจ้า
สนุกสนานกันไป สะสมต้นไม้ไปเรื่อย แพงขึ้นไปเรื่อยๆ ต้นไหนดี ซื้อเก็บไว้จ๊ะ
.. หลังจากเริ่มสร้างชื่อจากการขายต้นไม้ใบด่างมาสักระยะ
.. กระแสบอนก็เริ่มมา (colocasia) .. เริ่มมีทุน รอบนี้จัดหน้ากาฟาโรห์มาเลยจ้า ต้นแม่ 20,000 บาท ไปรับมาเองจากสวน
.. ต้นเล็กๆ ในกลุ่มราคาเริ่มต้นประมาณ 3000-5000 บาท ตัดใจเอาต้นแม่ไปเลย
.. ต้นแม่นี้คือจุดเปลี่ยนไปเลยจ๊ะ ทุกหน่อ ทุกไหลที่แทงออกมา มันคือเงินทั้งนั้น
.. 1 ข้อเล็กๆ ของหน้ากากฟาโรห์ ราคา 3000++ เคยขายแพงที่สุดอยู่ที่ 12,000 บาทต่อ 1 หน่อ
.. ตัดมาชำเองด้วย ขายด้วย ต้นใหญ่พร้อมขยายพันธุ์อยู่ที่ 30,000- 50,000 บาท
.. ทุนเริ่มมา ต้นไม้เริ่มเยอะ ก็ตามมาอีกหลายอย่าง มีทุกประเภท ชำเอง ปลูกเอง จัดการดูแล ปุ๋ย ยา สร้างโรงเรือนใหม่
.. ไม้กระแส ไม้แพง ต้นหลักแสนก็ลงทุนซื้อมา "บอนหูช้างด่างขาว" ไม้ไฮบริดลูกผสมอีกหลายตัว
แต่ .. กระแส มีเกิดก็มีดับ และเราเองก็สะสมไม้ไว้เยอะในช่วงที่ราคากำลังดี บางต้นยังไม่ทันให้ผลผลิต บางต้นก็ตายเพราะว่าซื้อมาในระยะการชำที่ยังไม่แข็งแรงพอที่จะขนส่ง หลากหลายปัจจัย
และระยะสุดท้ายของไม้ด่างก็มาถึง หลังจากการปลดล๊อคดาวน์ ผู้คนเริ่มออกเดินทางได้ ความสนใจในการปลูกต้นไม้ลดลง เพราะกิจกรรมอย่างอื่นสามารถทำได้ตามปกติแล้ว ราคาเริ่มลดลง ผู้ค้ารายใหม่ที่ซื้อต้นไม้มาแพง เริ่มเทขายแข่งกัน ทุกคนต่างลดราคา แข่งกันขาย จนสุดท้ายราคาพีคๆ ก็กลับมาถูกลงกว่าราคาปกติ
.. จบวาระกระแสไม้ด่าง สำหรับสวนเรา มีไม้หลายตัวที่ซื้อไว้และยังไม่ทันได้ผลผลิต เจ็บตัวกันไป
.. นับว่าเป็นประสบการณ์ “เจ็บแต่จบ” และเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากจริงๆ ต้นไม้มันฮีลใจเราดีเหลือเกิน และก็ให้ประสบการณ์ที่ดี ทำให้เราเข้าใจโอกาสและการใช้โอกาส และการมีสติในการใช้ชีวิตค่ะ
.. จงมีสติในการใช้ชีวิตเสมอนะคะ .. ด้วยความห่วงใยค่ะ
พิณ พนิดา 36 w
ยุคโควิดตอนนั้นกระแสต้นไม้มาแรงมากจริงๆ